"พีดีเฮ้าส์" แจงกิจกรรม "Open House" ออนไลน์ คึกคัก  ระบุ 5 วัน คนเข้าชม 70,000 ราย มั่นใจสร้างการเข้าถึงแบรนด์ "พีดี เฮ้าส์" ในกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศได้ดีขึ้น เผยยอดจองทำสัญญาหลังลูกค้าเข้าชมงาน 4-5 หลัง คาดสิ้นเดือนยอดจองสร้างบ้านตามเป้า 100 ล้านบาท

นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดี เฮ้าส์ คอร์ ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ภายหลังจบงาน "Open House" ออนไลน์ ซึ่งเป็นการนำแบบบ้านเดิมมาปรับสเปกวัสดุก่อสร้าง หรืออัปเดตวัสดุก่อสร้างใหม่ เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการสร้างบ้านกับ "พีดี เฮ้าส์" ได้วัสดุก่อสร้างที่ได้มาตรฐานสูงขึ้น และมีนวัตกรรม ดีไซน์ใหม่ๆ ที่ตรงกับความต้องการลูกค้ามากขึ้น โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นในช่วงวันที่ 8-12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้เข้าชมงานผ่านเว็บไซต์กว่า 70,000 ราย และมีลูกค้าที่จองซื้อบ้านสเปก ใหม่กับบริษัท 4-5 รายแล้ว โดยงานครั้งนี้ บริษัทคาดยอดจองซื้อไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท โดยคาดว่าหลังจบงานภายใน 1 เดือน จะมีลูกค้าทยอยตัดสินใจ ทำสัญญาก่อสร้างบ้านเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

"งาน Open House ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ เน้นการสร้างแบรนด์และการสร้างการรับรู้ในแบรนด์ "พีดี เฮ้าส์" ในกลุ่มลูกค้า ทั้งที่ เป็นกลุ่มลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่ ดังนั้น แบบบ้านใหม่ที่มีการอัปเดตสเปกวัสดุก่อสร้างแล้ว จึงยังมีราคาขายเท่าเดิม หรือบางแบบที่มีราคาเพิ่มขึ้นก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก แต่เป็นการปรับขึ้นตามต้นทุนวัสดุก่อสร้างจริง"

ทั้งนี้ ยอมรับว่าการปรับขึ้นราคาก่อสร้างบ้านในช่วงนี้ ถือว่าทำได้ยากมาก เนื่องจากการแข่งขันในตลาดบ้านสร้างเอง ณ ปัจจุบันแข่งขันสูงมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวด ซึ่งมีบริษัทรับสร้างบ้านรายเล็กเกิดใหม่เป็นจำนวน แต่แบรนด์ยังไม่เป็นที่รู้จักและไม่ได้การยอมรับจากลูกค้า ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ ส่งผลให้ผู้ประกอบการรายใหม่ ใช้กลยุทธ์การหั่นราคาขายในการทำตลาด ยิ่งทำให้การแข่ง ขันด้านราคาค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะในตลาดบ้านระดับ 1-2 ล้านบาท

ส่วนบ้านระดับราคา 3-10 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มตลาดหลักของ "พีดี เฮ้าส์" ถือว่าได้รับผลกระทบจากการแข่งขันด้านราคาไม่มาก เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้เลือกและตัดสินใจใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้าน โดยพิจารณาผู้ประกอบการที่อยู่ในตลาดมานาน มีความน่าเชื่อถือ และมีแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับ ไม่ได้ตัดสินใจเลือกจากราคาก่อสร้างเป็นปัจจัยหลักการจัดงาน "Open House"  ออนไลน์ นี้ถือเป็นกิจกรรมการตลาด ที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วประเทศและรวมถึงลูกค้าต่าง ประเทศ โดยใช้งบการตลาดค่อนข้างน้อย

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ในเดือน ก.ค. บริษัทจะเข้าร่วมจัดกิจกรรมมหกรรม บ้านและวัสดุก่อสร้างออนไลน์ ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมไทยรับสร้างบ้าน โดยงานดังกล่าวจะมีสถาบันการเงิน และตัวแทนจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ร่วมเป็นพันธมิตรในการจัดงาน ขึ้นระหว่างวันที่ 11-21 ก.ค. และบริษัทยังมีแผนจะออกบูทในงานมหกรรม "ธอส.เอ็กซ์โป" ซึ่งเชื่อว่าจะ ช่วยผลักดันยอดขายในช่วงกลางปีให้ปรับตัวดีขึ้น โดย ณ ปัจจุบันบริษัทยังมียอดขายที่ต่ำกว่าเป้าที่ประมาณการไว้