"แสงฟ้าก่อสร้าง" ชี้อานิสงส์ตลาดอสังหาฯโต หนุนรับเหมาก่อสร้างปี 61 โตตาม ขณะที่ค่าก่อสร้างเฉลี่ย 20,000 บาท/ตร.ม. ตั้งเป้าปี 61 รับ งานใหม่ 8,000 ล้านบาท โต 20% ด้าน "ปูนอินทรี" ลุยแผนครึ่งปีหลังรับจีดีพีพุ่ง

นพ.เชิดศักดิ์ อัมพรสุขสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอาคาร เปิดเผยว่า ตลาดรับเหมาก่อสร้างในส่วนของโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ มีการเติบโตมาก ส่งผลให้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเติบโตตามตลาด

อย่างไรก็ตาม ตลาดรับเหมาก่อสร้าง ยังคงแข่งขันรุนแรงเช่นเดิม ในขณะที่ราคาค่าก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมระดับกลางเฉลี่ยที่ 20,000 บาทต่อตารางเมตร มา 3-4 ปี เพราะการแข่งขันที่สูง และราคาวัสดุก่อสร้างไม่ได้ปรับขึ้นมากนัก ทำให้ผู้รับเหมายังคงยืนราคาค่าก่อสร้างราคาเดิมได้ ส่วนเรื่องแรงงานยังขาดแคลนเช่นเดิม

"ที่ผ่านมาภาพรวมบริษัทพัฒนาอสังหาฯ เปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่อง ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเติบโตตามด้วย เกิดการแข่งขันเพื่อรับงานใครที่ราคาก่อสร้างต่ำจะสามารถรับงานได้ดี จะเห็นได้ว่าอัตราค่าก่อสร้างราคา 1 หมื่นบาทปลายๆ ต่อ ตารางเมตร ยังลงมาตัดราคาเพื่อรับงานก็มีให้เห็น"

ปัจจุบันบริษัทมีงานก่อสร้างอยู่ในมือ (แบ็กล็อก) มูลค่า 6,000 ล้านบาท จำนวน 20 โครงการที่จะทยอยรับรู้ภายใน 2 ปี แบ่งเป็นงานในกรุงเทพฯ 18 โครงการอีก 3 โครงการอยู่ในภูเก็ต หัวหินและศรีราชา และมีงานใหม่เข้ามาต่อเนื่อง โดยปีนี้บริษัท ตั้งเป้ารับงานใหม่มูลค่า 8,000 ล้านบาท เติบโต 20% ช่วง 6 เดือนแรกรับงานได้แล้ว 5,000 ล้านบาท ในช่วงที่เหลือปีนี้คาดว่าจะรับงานเพิ่มได้อีกประมาณ 10 โครงการ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ สามารถรับงานได้ประมาณ 20 โครงการต่อปี จะไม่เน้นรับงานจำนวนมากๆ เพราะมีโอกาสเสี่ยงในการบริหารการก่อสร้าง

ส่วนใหญ่เป็นการก่อสร้างโครงการคอนโดฯของบริษัทพันธมิตรธุรกิจ เช่น เสนา ดีเวลลอปเมนท์, ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์, ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้,พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เป็นต้น และยังมีงานก่อสร้างโครงการที่บริษัทเข้าไปร่วมลงทุน ได้แก่ โครงการสปริงส์ ทาวน์เวอร์ มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท โดยร่วมกับ บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (AIRA) ถือหุ้น 60% บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 25% และแสงฟ้าก่อสร้าง ถือหุ้น 15%, ยังร่วมกับบริษัท เดอะ ครีเอเตร์อส เอชคิว พัฒนาโครงการคอนเนอร์ ราชเทวี คอนโดมิเนียมหรู มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท โดยแสงฟ้าถือหุ้น 30% และโครงการ ซี เอกมัย โดยรวมกับบริษัท เดอะช้อยส์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด โดยแสงฟ้าถือหุ้น 30% ล่าสุดโครงการ ยู ศรีราชา ซึ่งบริษัทได้พัฒนาเอง 100% ผ่านบริษัทในเครือ บริษัท เอสเอฟซี เวนเจอร์ ศรีราชา

"ปูนอินทรี” ได้เวลารุก

นายมนตรี นิธิกุล รองประธานอาวุโส สายงานการตลาดและงานขาย บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) (SCCC) กล่าวว่า บริษัทเตรียมรุกตลาดปูนซีเมนต์ครั้งใหญ่ หลังภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยดีขึ้น จากการประกาศตัวเลขจีดีพีของหน่วยงานภาครัฐ เช่น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2561 จากเดิมขยายตัว 3.6-4.6% หรือเฉลี่ย 4.1% เพิ่มเป็น 4.2-4.7% หรือเฉลี่ย 4.5%, กระทรวงการคลังปรับประมาณการจาก 4.2% เพิ่มเป็น 4.5% ซึ่งสูงสุดในรอบ 6 ปีนับจากปี 2555 และล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับประมาณการจีดีพีปี 2561 เป็น 4.4% จากเดิม 4.1%

"ปูนอินทรีเชื่อว่าปี 2561 บริษัทจะเติบโตไพร้อมกับตลาดรวมที่โตขึ้น ซึ่งเป็นผลจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น มาตรการภาครัฐที่ชัดเจน ขึ้นทั้งในภาคสาธารณูปโภค และเมกะ โปรเจกต์ต่างๆ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกส่งผลโดยตรงต่อปริมาณการใช้ปูน แม้ว่าไตรมาสแรกตลาดปูนในไทยหดตัวลงเล็กน้อย แต่ไตรมาส 2 เริ่มเติบโตมากขึ้น เพราะการลงทุนภาครัฐที่ชัดเจน นโยบาย EEC และ Thailand 4.0 ซึ่งคาดว่าความต้องการปูนซีเมนต์จะเพิ่มหลายเท่า ส่วนตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มเติบโตดีมาก วัดจากปริมาณปูนซีเมนต์ในตลาดโลกที่สูงถึง 4.8 พันล้านตันในปี 2560 เท่ากับ CAGR (Compound Annual Growth Rate) หรือ อัตราการเติบโตของรายได้และกำไร ร้อยละ 7 โดยคำนวณจากช่วงเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง World Cement Association ประมาณการว่าตลาดปูนซีเมนต์โลกจะโตขึ้นอีกร้อยละ 1.5 ในปี 2561 และประเทศจีนยังเป็นประเทศหลักในการใช้ปูนซีเมนต์ ตามด้วยอินเดีย อเมริกา และบราซิล ล่าสุด บริษัทเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ "อินทรีเพชรพลัส (INSEE Petch Plus)" โดยอินทรีเพชรพลัส เกิดจากการวิจัยและพัฒนาจากทีมงานนานถึง 1 ปี"