เมื่อวันที่ 28 ส.ค. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยว่า จากที่ได้ก่อสร้างถนนเชื่อมต่อแนวตะวันออก-ตะวันตกจากถนนจรัญสนิทวงศ์ บริเวณแยกไฟฉายยาวต่อเนื่องไปบรรจบกับวงแหวนกาญจนา ถนนกาญจนาภิเษก และต่อเนื่องถึงถนนพุทธมณฑลสาย 2 ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ซึ่ง กทม.วางแนวก่อสร้างต่อเนื่องยาวไปบรรจบกับถนนพุทธมณฑลสาย 4 ที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งต้องก่อสร้างเพิ่มเติมอีกเป็นระยะทางรวม 7 กิโลเมตร เมื่อก่อสร้างได้สมบูรณ์จะช่วยแก้ปัญหาการเป็นพื้นที่ปิดล้อมเพิ่มทางเลือกในการเดินทางระหว่างถนนในแนวใกล้เคียงคือถนนบรมราชชนนีและถนนเพชรเกษมได้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามในช่วงของโครงการที่วางแผนจะต่อเชื่อมจากถนนพุทธมณฑลสาย 2 ต่อเนื่องถึงถนนพุทธมณฑลสาย 3 ระยะทางยาว 3.2 กิโลเมตร ซึ่งออกแบบเป็นถนนขนาด 8 ช่องจราจร งบประมาณก่อสร้าง 1,545 ล้านบาท ซึ่งตามแผนจะก่อสร้างในปี 62 ขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน

นายจักกพันธุ์ กล่าวต่อว่า โดยในเส้นทางที่ต่อขยายไปถึงพุทธมณฑลสาย 4 นั้นมีบ้านเรือนที่ดินของประชาชนที่อยู่ในแนวการก่อสร้างซึ่งมีความจำเป็นต้องจัดกรรมสิทธิ์พื้นที่เป็นที่ดินจำนวนถึง 387 แปลง ซึ่งก็สามารถจัดกรรมสิทธิ์ไปแล้ว 191 แปลง ส่วนในแนวถนนพุทธมณฑลสาย 2-สาย 3 ยังมีที่ดินที่ต้องจัดกรรมสิทธิ์และสิ่งปลูกสร้างรวมกว่า 80 แปลง โดย กทม.ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 90 ล้านบาท แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้เสร็จสิ้นซึ่งบางส่วน กทม.ได้สร้างความเข้าใจกับชาวบ้านที่อยู่ในแนวเส้นทางโดยใช้วิธีการปรองดองสร้างความเข้าใจเพื่อให้ชาวบ้านรื้อย้ายออกเพื่อการพัฒนาพื้นที่แต่ในบางส่วนเมื่อไม่สามารถจัดกรรมสิทธิ์ในรูปแบบปรองดองก็ต้องเข้าสู่กระบวนการออกกฎหมาย พ.ร.ฎ.เวนคืนพื้นที่ทำให้โครงการก่อสร้างต่อขยายถนนดังกล่าวจึงต้องชะลอการจัดสรรงบประมาณเพื่อรอให้สามารถเวนคืนที่ดินได้อย่างสมบูรณ์ไม่เป็นอุปสรรคในการก่อสร้างล่าช้าต่อไป