นางสาวภัทรานิษฐ์ แสงรัฐกาญจนสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีสไตล์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์โซนห้วยขวางและรัชดาภิเษก มีการเติบโตของที่อยู่อาศัยและการขยายของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มชาวจีน ทำให้ทำเลห้วยขวางถูกขนานนามว่า "นิวไชน่าทาวน์" ส่วนระดับราคาที่ดินโดยเฉพาะที่ติดถนน มีการปรับตัวสูงขึ้น จนทำให้การพัฒนาโครงการต้องขยับเข้ามาในซอย ราคาที่ดินในปัจจุบันอยู่ที่ 2.5-3 แสนบาทต่อตารางเมตร(ตร.ม.) ขณะที่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาราคาอยู่ที่ 1-2 แสนบาทต่อตร.ม. โดยการลงทุนในทำเลดังกล่าว คาดว่าจะให้ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าที่ 5%

สำหรับแผนธุรกิจของมีสไตล์ในปี 61 ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อขายในโซนห้วยขวาง อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีสัดส่วนที่อยู่อาศัย 70% และเป็นการลงทุนในธุรกิจโรงแรม 30% เพี่อเป็นการกระจายความเสี่ยง ส่วน แนวโน้มรายได้ในระยะข้างหน้า พอร์ตหลักๆ ยังคงรายได้จากการขาย รองลงมาเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้จากค่าเช่าและบริการ ซึ่งในปี 60 มีรายได้จากการขายประมาณ 400 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนยูนิตเหลือขายใน 2 ทำเล ได้แก่ โครงการที่ห้วยขวาง 3 โครงการ (แอล สไตล์, จี สไตล์ และซี สไตล์) จำนวน 50 ยูนิต และบางนา 70 ยูนิต มูลค่า 300-400 ล้านบาท

ส่วนในปีนี้มีแผนพัฒนาโรงแรม จำนวน 1 แห่ง ภายใต้ชื่อ "มีสไตล์ การาจ" เป็นโรงแรมขนาด 75 ห้องพัก สูง 7 ชั้น มูลค่า 120 ล้านบาท ราคาห้องพักอยู่ที่ 2,500-4,500 บาทต่อคืน คาดว่าในปีหน้าจะมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ประมาณ 80% และถึงจุดคุ้มทุนภายใน 7 ปี ส่วนในปี 62 มีแผนเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม B สไตล์ สูง 8 ชั้น จำนวน 190 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 1 ไร่ ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 300-400 ล้านบาท และ โครงการรูปแบบผสมผสาน(มิกซ์ยูส) โครงการแรกที่มีมูลค่าสูงสุด ภายใต้ชื่อโครงการ "มีสไตล์ มิวเซียม โฮเทล" มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 อาคาร โดยอาคารแรกสูง 8 ชั้น ในรูปแบบโรงแรม และอาคารที่สองจะสูง 22 ชั้น ขั้นที่ 8-22 ในรูปแบบของอพาร์ตเมนต์ และจะมีพื้นที่ให้บริการสำนักงานชั้นที่ 3-6 ในรูปแบบโคเวิร์กกิ้งสเปซ คาดก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปีหน้า

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีการพัฒนาเป็นทำเลแนวรถไฟฟ้า และ ในทำเลอื่นๆ เช่น โซนลาดพร้าว โซนท่าพระ โซนมีนบุรี โซนปากน้ำ จ.สมุทรปราการ และในต่างจังหวัด เช่น อยุธยา เป็นต้น