นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือPSH เปิดเผยว่า บริษัทฯให้ความสำคัญในการเข้าไปพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างมากขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตและการขยายตัวของเมือง ล่าสุด บริษัทฯ ได้ใช้เงินกว่า 1,000 ล้านบาท ซื้อที่ดินจำนวน 11 ไร่ ซึ่งปัจจุบันเป็นตลาดสดแฮปปี้แลนด์ จากบริษัท แฮปปี้แลนด์ กรุ๊ป จำกัด เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียมมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท สูง 26-30 ชั้น จำนวน 6 อาคาร 2,000 ยูนิต ภายใต้แบรนด์ "พลัม โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟสๆ แรกจะเริ่มเปิดตัวในช่วงไตรมาส 2 ปี 2562 กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2563 โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือกลุ่มคนทำงานในเมือง และในพื้นที่ใกล้เคียง ที่มี รายได้ระดับ 30,000-80,000 บาทขึ้นไปต่อเดือนต่อครอบครัว

นายปิยะกล่าวว่า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ใช้เม็ดเงินกว่า 200 ล้านบาทสำหรับซื้อที่ดินในพื้นที่ใกล้กันกับตลาดสดแฮปปี้แลนด์ เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดฯ แบรนด์ "เดอะทรี" บนเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ เป็นอาคารสูง 29 ชั้น 3 อาคาร และอาคารจอดรถ 9 ชั้น 1 อาคาร มีจำนวนห้องพักอาศัยประมาณ 700 ยูนิต รวมมูลค่า 1,700 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวในไตรมาส 4 ปี 2561 จับกลุ่มลุกค้าเป้าหมายที่มีรายได้ระดับเริ่มต้อน 50,000-100,000 บาทขึ้นไปต่อเดือนต่อครอบครัว

ทั้งนี้ ตลาดสดแฮปปี้แลนด์เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของย่านบางกะปิทั้งในอดีตและในอนาคต เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยเนื่องจากใกล้ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ โลตัส การเดินทางก็สะดวก เนื่องจากเป็นจุดต่อรถเมล์หลายเส้นทาง รวมทั้ง เป็นต้นสายของรถตู้และรถสองแถว และในอนาคตจะยิ่งเป็นทำเลที่น่าสนใจยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นทำเลที่เป็นจุดเชื่อม( Interchange )หรือเป็นฮับใหญ่อีกจุดหนึ่ง ที่เปลี่ยนถ่ายการเดินทางของรถไฟฟ้าสามสาย คือ สายสีเหลือง สายสีส้ม และสายสีน้ำตาล โดย ทั้งสามสายก็ยังเชื่อมไปยังรถไฟฟ้สายอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้การเดินทางไปยังย่านอื่นๆ ได้สะดวกสบาย จากศักยภาพของทำเลทั้งในปัจจุบันอละในอนาคตจะทำให้รอบๆ บริเวณนี้เจริญไปด้วย

"ที่ดินตลาดสดแฮปปี้แลนด์ที่จะนำไปสร้างคอนโดฯ เรามั่นใจว่าจะเปลี่ยนพื้นที่ตลาดสดเดิมกลายเป็นชุมชนไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ใกล้รถไฟฟ้า โดย เดอะทรี คอนโดฯ ที่อยู่เยื้องกับเดอะมอลล์บางกะปิ และ พลัม คอนโดฯ ที่จะสร้างบนที่ดินของตลาดสดแฮปปี้แลนด์เดิมนั้นได้รับการตอบรับ ที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เนื่องจากในย่านดังกล่าวมีกลุ่มผู้เช่าทั้งหอพักหรืออพาร์ทเมนต์ค่อนข้างมาก และนอกจากกลุ่มลูกค้าคนไทยแล้ว ในโซนดังกล่าวก็พบว่าได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ ทั้ง จากจีน และฮ่องกง