เซ็นจูรี่21 เผยผลสำรวจ "ทางรอดหรือทางตัน ของการพัฒนาอสังหาฯยุค รัฐบาล คสช." กลุ่มตัวอย่างร้องรัฐจัดการชุมชน ดูแลภาษีซื้ออสังหาริมทรัพย์ เช่น ลดหย่อนภาษีตามอัตราเงินกู้

นายธิติวัฒน์ ธีรกุลธัญโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี่21 (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2561 บริษัทฯได้ปรับรูปโฉม แบรนด์ใหม่ตามนโยบายของสำนักงานใหญ่ สหรัฐอเมริกา ส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงคือการมุ่งเน้นสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ผ่านศูนย์วิจัยข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ชื่อ "Century21 Poll" ซึ่งจะนำเสนอมุมมองที่น่าสนใจในธุรกิจอสังหาฯ จากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลจากการศึกษากลุ่มตัวอย่าง สัมภาษณ์ เจาะลึก สร้างงานวิจัยด้านอสังหาฯ เพื่อประโยชน์ต่อกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และผู้สนใจทั้งในจุลภาค และมหภาค โดยในการวิจัยเชิงสำรวจ ในครั้งนี้จัดทำขึ้นในหัวข้อ "ทางรอดหรือทางตันของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในยุครัฐบาล คสช." โดยได้สำรวจประชาชนกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,110 คน ที่เป็นตัวแทนของแต่ละภาค  โดยพบว่าการพัฒนาอสังหาฯยุครัฐบาล คสช (หลัง 22 พ.ค.2557) ตลาดอสังหาฯ เติบโตมากกว่า ปี 2560 ในเขตเมืองและกทมฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการ แนวราบ ช่วง พ.ย. 2558 โดยปี 2558 ธุรกิจอสังหาฯ กลายเป็นธุรกิจ ที่มีมูลค่าการจดทะเบียนสูงสุด (21% หรือ 1 ใน 5 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด) โดยตลาด อสังหาฯเติบโตมากที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร ราว 40% รองลงมาคือภาคตะวันออก 21% และภาคใต้ 16% ตามลำดับ

ดังนั้น บริษัท ฯ จึงได้ทำการสำรวจมุมมองของประชาชนหรือผู้บริโภคโดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดหลักๆ เพื่อสะท้อนออกมาผ่านประเด็นคำถาม หนึ่งในนั้นคือ ท่านต้องการให้ คสช. เสริมหรือเพิ่มเติมนโยบายเกี่ยวกับ "ที่อยู่อาศัย"อะไรบ้าง  ผลสำรวจพบว่าลำดับที่ 1 ต้องการจัดการชุมชนและสิ่งแวดล้อม อันดับที่ 2 ภาษีกับการซื้ออสังหาฯ เช่นการลดหย่อนภาษีตามอัตราเงินกู้ที่ธนาคารอนุมัติ

อันดับ3 การเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ลำดับที่ 4 การซื้อที่อยู่อาศัย "คนรุ่นใหม่วัยทำงาน" (อายุ 25- 35 ปี)  และอันดับที่ 5 การเช่าเพื่อ ซื้อ ตามฐานรายได้เติบโต ของชนชั้นกลาง 86.30%  อันดับที่ 6 บ้านประชารัฐ ทั้งนี้ที่ประชาชน ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบาย "บ้านประชารัฐ" ให้เหตุผลว่าบ้าน ประชารัฐมีราคาแพงและจะ ทำให้เป็นหนี้เพิ่มและบางส่วน มีบ้านแล้ว