พรีเมียร์รุกอสังหาหรู
Loading

พรีเมียร์รุกอสังหาหรู

วันที่ : 11 ตุลาคม 2561
พรีเมียร์ ปั้นแบรนด์ บ้านนวัต เจาะ 3 เซ็กเมนต์เริ่มต้น 15 ล้านขึ้นไป ชูบ้านนวัตกรรมใหม่ราคาต่ำกว่าคู่แข่งเกือบเท่าตัว
          พรีเมียร์ ปั้นแบรนด์ บ้านนวัต เจาะ 3 เซ็กเมนต์เริ่มต้น 15 ล้านขึ้นไป ชูบ้านนวัตกรรมใหม่ราคาต่ำกว่าคู่แข่งเกือบเท่าตัว

          น.ส.ทิพย์ชยา พงศธร กรรมการ ผู้จัดการใหญ่สายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มธุรกิจโรงแรม กลุ่มบริษัทพรีเมียร์ เปิดเผยว่า ธุรกิจอสังหาฯ เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ทางกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ดำเนินการมากว่า 40 ปี สำหรับปีนี้บริษัทได้พัฒนาโครงการแบรนด์ใหม่ คือ บ้านนวัต ภายใต้แนวคิด นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1,200 ล้านบาท

          ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีการเปิดตัวแล้ว 2 โครงการ คือ บ้านนวัต พระราม 9 และบ้านนวัต เอกมัย-รามอินทรา ซึ่งมี ยอดขายโครงการละ 2 ยูนิต และล่าสุดได้เปิดอีก 1 โครงการ คือ บ้านนวัต รามคำแหง 118 มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท พื้นที่โครงการกว่า 8 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ มี 3 รูปแบบ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 72.8-166.4 ตารางวา (ตร.ว.) พื้นที่ใช้สอย 363-576 ตารางเมตร (ตร.ม.) จำนวน 23 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 29-57 ล้านบาท จากการเปิดขายอย่างไม่เป็นทางการมียอดขายแล้ว 2 หลัง ซึ่งบริษัทเตรียมเปิดพรีเซลในวันที่ 10 ต.ค.นี้ และคาดว่าจะปิดการขายทั้งโครงการในปี 2562

          สำหรับบ้านนวัตจะเป็นแบรนด์สำหรับการพัฒนาโครงการต่อจากนี้ โดยจะครอบคลุม 3 เซ็กต์เมนต์ คือ บ้านนวัต ไลต์ ระดับราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป บ้านนวัต ระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป บ้านนวัตลักซ์ ระดับราคา 50 ล้านบาทขึ้นไป โดยเป็นบ้านสั่งสร้างมุ่งเน้นการออกแบบที่อยู่อาศัยที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น โดยขนาดโครงการจะอยู่ที่ราว 10-15 ไร่ จำนวนยูนิตขึ้นอยู่กับที่ดินที่ได้มาซึ่งจะไม่เกิน 100 ยูนิต เพื่อให้สามารถสร้างและส่งมอบบ้านให้ลูกค้าภายใน 1 ปี

          น.ส.ทิพย์ชยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2562 บริษัทมีแผนเปิด 2 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 1,000 ล้านบาท โดยจะเห็นแบรนด์บ้านนวัต ไลต์ 1 โครงการ ซึ่งเป็นขนาดย่อมลงมา ส่วนอีกโครงการอยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกทำเลที่ตั้งโครงการ ซึ่งบริษัทจะเน้นโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก

          ด้านการแข่งขันในตลาดระดับบน มองว่า ยังสูงแต่ด้วยโปรดักต์ของบริษัทเป็นกลุ่มนิชมาร์เก็ต อีกทั้งจุดเด่นนอกจากทำเลแล้วยังโดดเด่นในเรื่องของนวัตกรรมที่สามารถนำมาใช้ได้จริงในการอยู่อาศัยทุกวัย ขณะที่ครอสต้นจะต่ำกว่าคู่แข่งเกือบเท่าตัวอันเป็นผลมาจากความ ร่วมมือในเครือบริษัทและซัพพลายเออร์ ส่วนผู้บริโภคสามารถประหยัดค่าไฟ ถึง 35% หรือ 2,000 บาท/เดือน จากการใช้นวัตกรรมต่างๆ เช่น ระบบแอร์อัจฉริยะ VRV โซลาร์รูฟท็อปพร้อมอินโนเวชั่น เป็นต้น

          "บริษัทไม่ได้เปิดตัวโครงการปีละหลายโครงการ เพราะต้องการทุ่มเทให้กับรายละเอียดในการสร้างนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน เพื่อส่งมอบความเป็นอยู่ที่มีคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค รวมทั้งคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน โดยปีนี้คาดว่าจะมียอดขายที่ 100 ล้านบาท และปี 2562 จะอยู่ที่ 1,288 ล้านบาท" น.ส.ทิพย์ชยา กล่าว
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ