CPN ยังไม่มีความชัดเจนการทำเทนเดอร์ฯ GLAND รอบสอง หลังเข้าถือหุ้นแล้วกว่า 67.53% ชี้หากจะทำต้องได้รับการอนุมัติการผู้ถือหุ้นก่อน พร้อมทบทวนแผนลงทุนทั้งหมดของ GLAND ส่วนผลงาน Q4 แจ่ม! รับไฮซีซั่นธุรกิจ ย้ำรายได้รวมปีนี้ตามนัดโต 18%

          นางสาวปัทมิกา พงศ์สูรย์มาส ผู้อำนวยการบริหารการเงิน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยถึงกรณีข่าวลือบริษัทตั้งโต๊ะรับซื้อหลักทรัพย์ (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) ของบริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLAND รอบ 2 นั้น ว่า ยังไม่ได้มีความชัดเจนออกมาจากบริษัท หลังเทนเดอร์ฯ รอบแรกบริษัทเข้าถือหุ้นแล้ว 67.53% ของหุ้นทั้งหมดของ GLAND หากต้องมีการทำเทนเดอร์ฯ รอบ 2 จริง ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ถือหุ้น ซึ่งปัจจุบันมีผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ถือหุ้นอยู่ 30% ขึ้นอยู่ที่ผู้ถือหุ้นจะโหวตด้วยหรือไม่

          ขณะเดียวกันปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการทบทวนแผนการดำเนินงาน และแผนการลงทุนทั้งหมดของ GLAND รวมถึงโครงการ Super Tower ด้วย เบื้องต้นมองว่าการก่อสร้างตึกสูงไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับเงินลงทุน และอาจไม่ใช้โมเดลเดิมแล้ว ทั้งนี้คาดว่าจะสรุปความชัดเจนได้ภายใน 6 เดือน หรือภายในครึ่งปีแรกของปี 2562

          ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงไตรมาส 4/2561 จะเติบโตได้มากกว่าไตรมาส 3/2561 เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ซึ่งมีการเฉลิมฉลองในเทศกาลปีใหม่ ทำให้มีรายได้จากการจัดงานอีเวนต์ และการค้าเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการเปิดห้างเซ็นทรัลภูเก็ตในช่วงต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ดังนั้นบริษัทมั่นใจจะมีรายได้รวมปี 2561 เติบโต 18% จากปี 2560 ที่มีรายได้รวม 120,573.59 ล้านบาท พร้อมทั้งควบคุมต้นทุนในการลงทุนไว้ไม่เกิน 17.5% ของรายได้รวม ตามแผนที่วางไว้

          ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทบริหารจัดการศูนย์การค้ารวมทั้งหมด 33 สาขา รวมพื้นที่ 1.7 ล้านตารางเมตร (ตร.ม.) อัตราเช่าพื้นที่เฉลี่ย 92% แบ่งเป็นเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล 14 โครงการและต่างจังหวัด 19 โครงการ ประกอบกับมีศูนย์อาหาร 29 แห่ง, อาคารสำนักงานให้เช่า 7 อาคาร, โรงแรม 2 แห่งและอาคารที่พักอาศัย 1 แห่ง (นับรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ได้โอนไปยังกองทรัสต์ CPNREIT และกองทุน CPNCG แต่ยังอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท)

          ส่วนโครงการที่พักอาศัยจำนวน 7 โครงการ ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ESCENT และ ESCENT VILLE ที่ได้เปิดตัวแล้ว 6 โครงการตั้งอยู่ในบริเวณที่ดินของศูนย์การค้า CPN ปัจจุบันมียอดจองซื้อ (Presale) เต็ม 100% ทุกโครงการ โดย 3 โครงการที่สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว และอยู่ระหว่างการโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ลูกค้า ได้แก่ โครงการ ESCENT เชียงใหม่, ขอนแก่น และระยอง ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดในปี 2561 และ 3 โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ โครงการ ESCENT นครราชสีมา, ESCENT VILLE เชียงราย และ ESCENT VILLE เชียงใหม่ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมโอนได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562

          นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาศูนย์การค้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 3 แห่ง ได้แก่ 1. เซ็นทรัลไอซิตี้ (Central i-City) ในเมืองชาห์อลัมรัฐสลังงอร์ประเทศมาเลเซีย ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ 60% และ 1-R & D Sdn. Bhd. (IRD) ถือหุ้น 40% (บริษัทลูกของ I-Berhad) คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงต้นปี 2562

          2. เซ็นทรัลวิลเลจศูนย์การค้าในรูปแบบ Luxuy Outlet ระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทย กำหนดเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 3/2562 และ 3. เซ็นทรัลพลาซา อยุธยา ศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำหนดเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 2562

          สำหรับแผนการดำเนินงานในระยะ 5 ปีข้างหน้า (ปี 2561-2565) ที่จะมีรายได้เติบโตในอัตราเฉลี่ย (CAGR) อย่างน้อย 13% ต่อปีด้วยการขยายธุรกิจในรูปแบบการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม (Mixed-use Development) ประกอบด้วยการพัฒนาศูนย์การค้าใหม่ การปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่เพื่อเพิ่มมูลค่าการพัฒนาโครงการที่พักอาศัย ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่และการปรับปรุงกระบวนการดำเนินงาน เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

          นอกจากนี้ บริษัทมีการศึกษาโอกาสทางธุรกิจในรูปแบบอื่นอย่างต่อเนื่อง และยังมีการศึกษาโอกาสการลงทุนในตลาดต่างประเทศ เพื่อการเติบโตตามเป้าหมายในอนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยบริษัทจะเสนอแผนการดำเนินงาน และงบลงทุนต่าง ๆ ของปี 2562 ต่อคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ในช่วงต้นเดือน ธ.ค. 2561

          ส่วนความคืบหน้าการต่อสัญญาเช่าห้าง ZEN หมดอายุปี 2562 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการต่อรองเรื่องราคาเพิ่มเติม ส่วนอีเซตันจะหมดอายุในปี 2563 ก็อยู่ระหว่างเจรจาพื้นที่เช่า และราคา เบื้องต้นประเมินว่าจะสรุปความชัดเจนได้ภายในปี 2562