วิกฤติอพาร์ตเมนต์ ปล่อยเช่าถูกคอนโดเบียดตลาด อัตรา การพักลดลง โดดเล่นสงครามราคาชิง ลูกค้าเช่า บางรายห้องพักระดับ 20 ห้อง ไม่รอดแห่เร่ขายทิ้ง พลิกเกมขออนุญาต ทำโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ปล่อย รายวัน
          นายรวิโรจน์ อัมพลเสถียร เจ้าของอพาร์ตเมนต์ 11 แห่ง ภายใต้แบรนด์ "มายเฮาส์" ผู้ประกอบการที่เข้าสู่ธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ โดยการพัฒนา อพาร์ตเมนต์ให้เช่า เปิดเผยถึงสถานการณ์ธุรกิจในช่วง 10ปีที่ผ่านมา ภายหลัง การเกิดขึ้นของรถไฟฟ้า ทำให้เกิด การพัฒนาคอนโดมิเนียมเข้ามาเบียด สัดส่วนตลาดอพาร์ตเมนต์ให้เช่ามากขึ้น จากเดิมที่อพาร์ตเมนต์เป็นกลุ่มคนระดับล่างถึงระดับกลาง ที่จ่ายค่าเช่าในราคา 3,000-5,000 บาทต่อเดือน เริ่มหันไปซื้อคอนโดมากขึ้น
          ประกอบกับในช่วง 5 ปีหลัง นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เริ่มหันไปขยายตลาด จากที่ชิงตลาดคอนโดเพียงตลาดกลางถึงบน ระดับ 2 ล้านบาทขึ้นไป เริ่มหันลงมาเล่นในตลาดล่าง จนขยายครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า ส่งผลทำให้กลุ่มผู้ประกอบการอพาร์ตเมนต์เริ่มแข่งขันยากขึ้น
          ทั้งนี้ การเติบโตของตลาดคอนโด ส่งผลกระทบโดยตรงกับธุรกิจให้เช่าอพาร์ตเมนต์แข่งขันยากขึ้น ไม่สามารถ ปรับขึ้นราคาค่าเช่าได้ แม้เงินเฟ้อ เพิ่มขึ้น เพราะความต้องการของลูกค้าลดลงจึงต้องรักษาระดับราคาให้ต่ำกว่าอพาร์ตเมนต์มากกว่า 50% เพื่อดึงดูด ลูกค้า จากที่ราคาคอนโดในอัตราผ่อน อยู่ที่ประมาณ 8,000-10,000 บาทต่อ เดือน อพาร์ตเมนต์ให้เช่าจะต้องอยู่ระดับ 4,000-5,000 บาทต่อเดือน จึงสามารถแข่งขันได้  ส่งผลทำให้กลุ่มอพาร์ตเมนต์ที่มีในกรุงเทพฯกว่า 10,000 ราย เจ้าของกว่า 500,000 ห้อง มีกลุ่มที่แข่งขันไม่ได้ เพราะอัตราการเข้าพักลดลงจาก 100% เหลือเพียง 50-70% โดยเฉพาะกลุ่ม ห้องพักระดับ 10-20 ห้อง จำเป็นต้องนำอพาร์ตเมนต์ไปขายในตลาด เพราะจากเดิมที่คืนทุนระดับ 7-8 ปี ต้องรอคืนทุนไปถึง 10-12 ปี
          เขายังกล่าวต่อว่า ทางออกของ ผู้ประกอบการที่โดนชิงตลาดหรือ ทำลายล้าง (Disrupt) ด้วยกลุ่มคอนโด ผู้ประกอบการอพาร์ตเมนต์จึงหันไป พัฒนาธุรกิจโรงแรม โดยการยื่นใบ ขออนุญาต พัฒนาโรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ที่นำห้องเช่ารายเดือนมาปล่อยเช่ารายวันได้
          ด้านนางสาวพัชรี ศาสตราวาหา อุปนายกสมาคมการค้าผู้ประกอบการ ธุรกิจห้องเช่า กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ อพาร์ตเมนต์และห้องเช่าในประเทศไทยหลายหมื่นราย แต่ที่ผ่านมา ยังไม่มีการ รวมตัวกันที่เป็นกิจจะลักษณะ จึงไม่มี อำนาจต่อรองหรือประสานงานกับ หน่วยงานรัฐและเอกชนอื่นๆ ดังนั้นจึง ก่อตั้งสมาคมการค้าผู้ประกอบการธุรกิจ ห้องเช่า เพื่อรวบรวมผู้ประกอบการ อพาร์ตเมนต์ ห้องพัก คอนโด ห้องเช่า ทั่วประเทศ ให้มาร่วมกันต่อสู้และผลักดัน การแก้ไขปัญหาจาก "ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องให้ธุรกิจการให้เช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัยเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา" ทั้งในแง่ของการดำเนินคดีฟ้องร้องใน ศาลปกครองและรวมพลังพัฒนาธุรกิจ ห้องเช่าในอนาคต