ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ เช็กแฮนด์โอซากา เสนาฯ-ฮันคิวฯ JV คอนโดฯทะยาน 5 หมื่นล้าน
Loading

ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ เช็กแฮนด์โอซากา เสนาฯ-ฮันคิวฯ JV คอนโดฯทะยาน 5 หมื่นล้าน

วันที่ : 12 พฤศจิกายน 2561
อาจเป็นแบรนด์เจ้าแรกและเจ้าเดียวในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่กล้าชูเรื่องของ "ผู้หญิง" มาเป็นจุดขาย ด้วยความเชื่อที่ว่า ผู้หญิง "ละเอียด" กว่าผู้ชาย "เรื่องเยอะ" กว่าผู้ชาย ถ้าตอบโจทย์เพศที่ยุ่งยากและเยอะได้ ถือเป็นการตอบโจทย์ที่ยากที่สุด
          made from her-ผู้หญิง อยู่สบาย...ผู้ชายก็แฮปปี้ เป็นแนวคิดการสร้างคอนโดฯของ "เสนา ดีเวลลอปเม้นท์"

          อาจเป็นแบรนด์เจ้าแรกและเจ้าเดียวในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่กล้าชูเรื่องของ "ผู้หญิง" มาเป็นจุดขาย ด้วยความเชื่อที่ว่า ผู้หญิง "ละเอียด" กว่าผู้ชาย "เรื่องเยอะ" กว่าผู้ชาย ถ้าตอบโจทย์เพศที่ยุ่งยากและเยอะได้ ถือเป็นการตอบโจทย์ที่ยากที่สุด

          จึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์ว่า "ผู้หญิงอยู่สบาย ผู้ชายก็แฮปปี้"

          บุกโมเดลต้นแบบ "Remm"

          โดยค่ายเสนาจับมือเป็นพันธมิตรธุรกิจกับ "วากาบายาชิ ซึเนะโอะ" ประธานกรรมการบริหาร ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ปเปอร์เรชั่น มาตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน โปรเจ็กต์ร่วมทุน นับวันมีแต่จะเบ่งบานสะพรั่งในตลาดเมืองไทย

          ล่าสุด "ดร.ยุ้ย-เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์" ผู้บริหารค่ายเสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จัดทริป คณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมจุดเริ่มต้นแนวคิด "made from her" ที่เป็นโมเดลต้นแบบมาพัฒนาคอนโดมิเนียมในเมืองไทย โดยได้แรงบันดาลใจมาจากโรงแรม Remm ของญี่ปุ่น

          ทั้งนี้ Remm เป็น 1 ใน 48 เชนโรงแรมของ "ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ปเปอร์เรชั่น" บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อก้องของเมืองโอซากา ติดทำเนียบ 1 ใน 6 ธุรกิจภายใต้เครือข่ายอาณาจักร 2 แสนล้านของ "ฮันคิว ฮันชิน โฮลดิ้ง กรุ๊ป" ประกอบด้วยธุรกิจอสังหาฯ รถไฟ บันเทิง/สโมสรเบสบอล ท่องเที่ยว โลจิสติกส์ และธุรกิจโรงแรม ที่มีห้องพัก รวมมากกว่า 10,693 ห้อง

          Remm เป็นโรงแรมคอนเซ็ปต์ business hotel ทำเลเหนือสถานีรถไฟ Shin Osaka ซึ่ง Shin ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า "ใหม่" เป็นชุมทางรถไฟหลายสายที่เชื่อมต่อในเขตคันไซ และรถไฟหัวกระสุน "ชินคันเซ็น" อันเลื่องชื่อ สามารถเดินทางไปได้ทั่วญี่ปุ่น

          ตอนเริ่มแรกที่ "ฮันชิน ฮันคิวฯ" ตัดสินใจลงทุนโรงแรม Remm ขึ้นมา โฟกัสกลุ่มเป้าหมายนักธุรกิจผู้หญิง กลายเป็นทอล์กออฟเดอะ ทาวน์จากคนในแวดวงโรงแรมของญี่ปุ่น ตั้งข้อสังเกตว่า...จะไปรอดหรือไม่

          แต่หลัง Remm สร้างเสร็จในปี 2016 ยอดผู้เข้าพัก 98% เป็นผู้หญิง ต่อมาในปี 2017 สัดส่วนถึง 96% ยังคงเป็นผู้หญิง และในปี 2018 มีลูกค้าผู้หญิงเข้าพัก 94% เป็นเครื่องการันตีว่าแผนธุรกิจนี้เดินมาถูกทางแล้ว

          กุญแจความสำเร็จที่ Remm หยิบมาโชว์ คือ ห้องพักทำเลประชิดสถานีรถไฟ จึงสะดวกสบายและปลอดภัยสูง สำหรับผู้หญิง เพียงแค่ก้าวขึ้นจากสถานีเพียงแค่กดลิฟต์มายังชั้นโรงแรม เดินอีกไม่กี่ก้าวก็ถึงห้องพัก

          ตกผลึก Made From Her

          "ดร.ยุ้ย-เกษรา" บอกว่า ในฐานะ คู่จอยต์เวนเจอร์ 3 ปีที่ผ่านมา ได้ตระเวนเยี่ยมชมโรงแรม 48 เชนของกลุ่ม ฮันคิวประทับใจสุด ๆ คือ แบรนด์ Remm เพราะใส่ใจทุกรายละเอียดอย่างแท้จริง

          "ห้องดี ราคาไม่แพง อยู่บนรถไฟฟ้า อุปกรณ์ที่ใช้กลั่นกรองอย่างดี ทั้งกลิ่น รสอาหาร สตอรี่ของโรงแรม ใช้ความคิดแบบผู้หญิง มีความเชื่อว่าผู้หญิงละเอียดกว่าผู้ชาย ดังนั้น ถ้าตอบโจทย์ผู้หญิงได้ก็ถือว่าบรรลุโจทย์ที่ยากที่สุด ก่อนหน้านี้ยุ้ยคิดว่าการทำธุรกิจโรงแรม ต้องทำให้ละเอียดเพื่อผู้บริโภค แต่ฮันคิวฯ กำลังทำสิ่งที่ยากที่สุดของผู้บริโภค คือ คิดเพื่อผู้หญิง"

          เช็กอินเปิดประตูเข้าภายในห้อง โทนสี คัฟเวอร์สีดิน-ฟ้า-เขียวอ่อน ให้ความรู้สึก อยากทอดกายลงไปนอนพัก ฟาซิลิตี้ ทุกอย่างชวนหลงใหลออกแบบเรียบง่าย ใช้งานสะดวก สะดุดตาแม้กระทั่งแชมพู น้ำหอม SHISEIDO ห่อหุ้มด้วยแพ็กเกจ ที่สามารถหยิบกลับมาเป็นของฝากได้ไม่ขวยเขิน

          "เราเปลี่ยนมุมมอง คิดเป็นโจทย์สำหรับผู้หญิง ทำสินค้าให้ได้ดี ละเอียดมากขึ้น ตอบโจทย์ให้ดีขึ้น นี่คือสิ่งที่ เสนาฯนำไปพัฒนา พยายามสร้างความต่อเนื่องในการพัฒนาสินค้าให้ดียิ่งขึ้น"

          จากแนวคิดของ Remm กลายมาเป็น made from her ของกลุ่มเสนา

          "คอนโดฯของเสนาฯแทบทุกที่มีผู้หญิง อาศัยมากกว่าผู้ชาย ดังนั้น made from her ไม่ใช่ตอบโจทย์เรื่องยาก แต่ตอบโจทย์คนส่วนใหญ่ที่อยู่คอนโดฯปัจจุบัน คือ ผู้หญิง เมื่อเราได้วิธีคิด จึงต้องทำโฟกัสกรุ๊ปทั้งหญิงและชายเพื่อค้นให้เจอว่าวิธีคิดตลอดจนไลฟ์สไตล์หญิงกับชายแตกต่างกันอย่างไร"

          ชู Knowledge Sharing

          กล่าวสำหรับ made from her ไม่ใช่สิ่งแรกที่หยิบยืมมาจากบิสซิเนสโมเดลของ "ฮันคิว ฮันชินฯ" ก่อนหน้านี้ knowledge sharing นำร่องภายใต้ คอนเซ็ปต์ Geo fit+ Lab ซึ่งเป็นห้องทดลอง R&D ในเครือ "ฮันคิว ฮันชินฯ" ไฮไลต์อยู่ที่ออกแบบและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ตามคำแนะนำของผู้อยู่อาศัย ต่อยอดจากแอปพลิเคชั่นบริการหลังการขาย 360 องศาที่เสนาฯมีอยู่แล้ว

          เอกซเรย์แนวคิด Geo fit+ แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่ 1.Geo fit+ Days : คุณภาพที่ได้มาตรฐาน การเลือกใช้วัสดุในแต่ละส่วนล้วนมาจากความต้องการของผู้อยู่อาศัย ที่สำคัญต้องผ่านการทดลองจริงในห้อง Geo fit+ Lab

          รูปธรรมจับต้องได้ที่พัฒนาจาก Geo fit+ Lab เช่น เฟอร์นิเจอร์ในห้องนอน ตู้เสื้อผ้า ห้องครัว จากจุดเด่นดีไซน์สไตล์ "small space" ของญี่ปุ่น คอนโดฯ ทุกห้องต้องใช้ประโยชน์ทุกตารางนิ้วให้คุ้มค่าที่สุด นำมาสู่ตู้วางรองเท้าที่สามารถ ปรับระดับของชั้นวาง สามารถจัดเรียง รองเท้าทรงสูงอย่างรองเท้าบูต และแน่นอนว่าต้องมีช่องสำหรับเก็บร่มได้ด้วย

          พลิกฝาตู้เสื้อผ้า ถูกออกแบบมาให้ปรับระดับที่แขวนเสื้อได้ตามต้องการ แบ่งช่องสำหรับแขวนเสื้อสูท เชิ้ตผู้ชายได้อย่างลงตัว แยกจากช่องที่แขวนเสื้อผ้าผู้หญิงซึ่งมีความยาวกว่า รายละเอียดเล็กน้อยแต่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกซึ่งเสนาฯได้นำมาปรับใช้กับคอนโดฯ ในเมืองไทยด้วย

          2.Geo fit+ Eco : ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อให้ได้ที่อยู่อาศัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การนำ โซลาร์รูฟมาติดที่หลังคาบ้าน ตามหลังคาตึกที่เสนาฯเป็นดีเวลอปเปอร์ที่ให้ความทุ่มเทอย่างจริงจังในเรื่องนี้

          3.Geo fit+ Age : การออกแบบที่สนองความต้องการของครอบครัวหลายวัยในปัจจุบัน คำนึงถึงช่วงอายุของคนในครอบครัว ตั้งแต่เด็ก หนุ่มสาว จนถึงวัยชรา

          4.Geo fit+ Sonae : เตรียมพร้อมฉุกเฉินป้องกันภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะโครงสร้างที่รองรับแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น

          ปรุงสูตรธุรกิจ 2S+2C

          หนึ่งในคีย์ซักเซสมาจากหัวข้อที่มีการศึกษาลงลึกรายละเอียด โดยแบ่งผู้หญิงแต่ละช่วงอายุ เพื่อสามารถตอบโจทย์คนทุกวัย โดยใช้สูตร 2S กับ 2C

          "ดร.ยุ้ย-เกษรา" ยกตัวอย่าง "1S" มาจาก HER self หมายถึง ผู้หญิงเวลาออกจากคอนโดฯต้องมั่นใจว่าสวย เป็นที่มาของมุมกระจกของเสนาฯจะยาวกว่าที่อื่น สามารถเอียงซ้าย เอียงขวาได้ด้วย "2S" มาจาก HER security ไม่ใช่แค่เรื่องความปลอดภัย แต่ต้องวางใจได้

          ส่วน 1C มาจาก HER Comfort คือความสบายของที่อยู่อาศัย และ 2C มาจาก HER Circle มากกว่าใช้ชีวิตคือแชร์ความสุข

          "ปรัชญาดำเนินธุรกิจของเสนาฯความน่าเชื่อถือเป็นเรื่องสำคัญ knowledge sharing การแชร์ความรู้ร่วมกัน ปรัชญาของเสนาฯใช้ Consumers come first ส่วนฮันคิว ฮันชินฯใช้คำว่า Consumers Centric ซึ่งเป็นความหมายเดียวกัน คือ ความเข้าใจลูกค้าโดยยึดถือลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ดีลจอยต์เวนเจอร์จึงเปรียบเป็นคู่สามีภรรยาที่ค่อนข้าง Active"

          คำอธิบายแบบเปิดใจของผู้บริหารค่ายเสนายังรวมถึงการทำงานที่เป็นไปในทางเดียวกันอย่างราบรื่น เหตุผลที่ร่วมงานกันมาแค่ปีเศษ ๆ แต่มีโครงการที่ร่วมกันมากขนาดนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องการลงทุนด้านการเงิน

          แต่เป็นเพราะ "...เคมีตรงกัน"

          ปี 2562 ต่อยอดร่วมทุน 3.5 หมื่น ล.

          เป็นเวลากว่า 2 ปีที่ดีลจอยต์เวนเจอร์ ระหว่าง "เสนา ดีเวลลอปเม้นท์" ร่วมกับ "ฮันคิว ฮันชินฯ" อย่างเป็นทางการเมื่อ 5 ธันวาคม 2559 สถิติล่าสุดมีคอนโดมิเนียมร่วมทุนแล้ว 7 โครงการ มูลค่ารวม 23,000 ล้านบาท

          แบ่งเป็นโครงการกำหนดสร้างเสร็จในปี 2562-2563 ได้แก่ 1.โครงการ นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง กำหนดสร้างเสร็จปี 2562 2.โครงการ นิช โมโน เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ กำหนดสร้างเสร็จปี 2563 3.โครงการ นิช โมโน เจริญนคร กำหนดสร้างเสร็จปี 2563 4.โครงการนิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา กำหนดสร้างเสร็จ 2563

          อีก 3 โครงการกำหนดสร้างเสร็จในปี 2564 ได้แก่ 5.โครงการปีติ เอกมัย 6.โครงการนิช โมโน รามคำแหง และ 7.โครงการปีติ บางจาก

          สำหรับโครงการแรกที่จอยต์เวนเจอร์ คือ "นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง" มีมูลค่าโครงการ 3,400 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดพรีเซลแล้ว 80% โครงการ ที่ 2 "นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์"เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม 2561 มูลค่าโครงการ 3,400 ล้านบาท มียอดพรีเซล แล้ว 70% 
          ในขณะที่ตลาดลักเซอรี่แบรนด์แรกที่เป็นโครงการร่วมทุน คือ "ปีติ เอกมัย" มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท

          แผนธุรกิจที่เป็นแผนแห่งอนาคตร่วมกันระหว่าง "เสนาฯ-ฮันคิวฯ" ภายในปี 2562 บรรลุความร่วมมือในการเปิดตัวโครงการร่วมทุนอีก 11 โครงการ มูลค่ารวมกันไม่ต่ำกว่า 35,000 ล้านบาท

          ผงาดขึ้นเป็นดีเวลอปเปอร์เจ้าตลาดคอนโดฯเบอร์ต้น ๆ ของเมืองไทย
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ