5ปียอดพุ่ง3หมื่นหน่วยรับสายสีน้ำเงินลูกค้าจีนลามฝั่งธนฯ
          ทำเลจรัญสนิทวงศ์ แข่งทะลุจุดเดือด รับสายสีน้ำเงินเปิดปีหน้า ลูกค้าจีนลามฝั่งธนฯ ดีเวลอปเปอร์ โดดปักหมุดต่อเนื่อง แกรนด์ยูนิตี้ เตรียม ที่ดินขึ้นโครงการพฤกษาเลื่อนเปิดโครงการไปต้นปีหน้า ขณะศุภาลัยรับสามแยกไฟฉายขายดี นักวิเคราะห์เผย 5 ปีทะลัก 3 หมื่นหน่วย

          ถนนจรัญสนิทวงศ์ถูกแปลงโฉมจากย่านตึกแถวอาคารพาณิชย์เก่ากลายเป็นทำเลเดือดของตลาดคอนโดมิเนียมในปัจจุบัน เนื่องจากตลอดแนวมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินพาดผ่าน งานก่อสร้างคืบหน้า กว่า 98% ภายในปีหน้าสามารถเปิดให้บริการช่วงหัวลำโพง-บางแคได้ก่อน จากนั้นปี 2563 จะเริ่มเปิดให้บริการช่วงบางซื่อ-ท่าพระ

          นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท แวลู บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ทำเลจรัญสนิทวงศ์ กลายเป็น ทำเล "เรดโอเชียน" ตลาดคอนโดมิเนียมแข่งขันรุนแรง จากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สำหรับ พฤกษา เปิดขายหลายโครงการ และ ปลายปีนี้ เร่งปิดโครงการทำเลราชวิถี และ เดอะทรีริโอบางอ้อ จึงเลื่อน เปิดโครงการ เดอะทรีจรัญ-บางพระ500 หน่วยมูลค่า 1,800 ล้านบาทออกไป เป็นต้นปีหน้าก่อนเทศกาลสงกรานต์ ส่วนโครงการพลัมคอนโดปิ่นเกล้า 1,000 หน่วย กว่า 2,000 ล้านบาท ล่าสุดปิดการขายแล้ว

          สำหรับซัพพลายที่เกิดขึ้น มองว่าจะค่อยๆ ถูกดูดซับไป โดยเฉพาะจากกลุ่มลูกค้าใหม่คือกลุ่มคนจีน จุดเด่นโครงการตั้งอยู่ติดสถานีบางอ้อ มีการออกแบบห้องขนาดใหญ่ ที่สำคัญ วิวติดแม่น้ำเจ้าพระยาคนจีนมองว่าเป็นหัวมังกรถือเป็นฮวงจุ้ยที่ดี ราคาไม่แพง 9 หมื่น-1 แสนบาทต่อตารางเมตรเท่านั้น หากเทียบทำเลสุขุมวิท นอกจากนี้ยังเดินทางเข้าเมืองเก่าสะดวกโดยเฉพาะ ย่านราชดำเนิน โดยขายโครงการให้กับคนจีน 30% ทั้งนี้มองว่าปีหน้าหากรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ กลุ่มคนจีนจะขยับจากทำเลสุขุมวิทมาย่านฝั่งธนมากขึ้น

          "ทำเลวิวแม่น้ำหัวมังกรแถมราคาไม่แพง แต่วันนี้ราคาที่ดินจรัญฯ เริ่มขยับขึ้นเพราะรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินใกล้เปิด จากเคยซื้อ 2 แปลง แปลงละ กว่า 3 แสนบาทต่อตารางวา เมื่อไม่กี่ปีมานี้  แต่ปัจจุบันขยับเกินกว่า 5 แสนบาทต่อตารางวาบริเวณทำเลบางอ้อ"

          ขณะที่นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการบริษัท ศุภาลัยจำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มองทำเลจรัญฯ แนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินยังมีอนาคตดี สำหรับการแข่งขันเชื่อว่ามีแน่แต่ ไม่ถึงกับโอเวอร์ซัพพลาย และยังมีความต้องการต่อเนื่องเพราะแหล่งงานเริ่มขยาย ประกอบกับผู้ประกอบการพุ่งเป้าทำเลสุขุมวิทพัฒนาฅคอนโดฯ ขายให้กับคนจีนเป็นส่วนใหญ่ ทำให้โครงการของศุภาลัยที่อยู่ระหว่างเปิดขายทำเล 3 แยกไฟฉายมียอดจองเกือบเต็ม ยอมรอเข้าอยู่อีก 2 ปีข้างหน้า อีกโครงการทำเลภาษีเจริญขายได้กว่า 70% ส่วนใหญ่ไม่มีลูกค้าคนจีน

          ขณะที่ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยระบุว่า ทำเลจรัญฯ เป็นทำเลน่าสนใจเนื่องจาก มีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่งผลให้นักพัฒนาที่ดินหลายรายเห็นโอกาสจากการสำรวจพบว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตลอดเส้นทางของถนนจรัญสนิทวงศ์มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่กว่า 20,000 ยูนิต และเป็นอีกทำเลที่ราคาที่ดินมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 100% ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

          ขณะที่โครงการคอนโดมิเนียมตามแนวถนนจรัญสนิทวงศ์ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2557 ถึงครึ่งแรกของปี 2561 เติบโตแบบก้าวกระโดด มีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่บนถนนจรัญสนิทวงศ์มากถึง 26,700 ยูนิต ซึ่ง บมจ. พฤกษาเรียลเอสเตท ถือว่าเป็นผู้ประกอบการหลักของย่านจรัญสนิทวงศ์ที่พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมย่านนี้แล้วประมาณ 4 โครงการ รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 6,400 ล้านบาท และเตรียมพัฒนาอีก 1 โครงการมูลค่ากว่า 1,800 ล้านบาท ย่านบางพลัดในช่วงปลายปีนี้ เอพี (ไทยแลนด์) พัฒนาโครงการ Life Pinklao มูลค่าการลงทุนประมาณ 3,100 ล้านบาท บมจ. ศุภาลัยพัฒนาแล้ว 1 โครงการมูลค่าการลงทุนประมาณ 1,200 ล้านบาท และล่าสุด บจก. แกรนด์ ยูนิตี้ ก็สนใจเข้ามาพัฒนาโครงการ De Lapis Charan 81 ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท บนถนนจรัญสนิทวงศ์เช่นเดียวกัน

          สำหรับกลุ่มลูกค้าหลักของย่านจรัญสนิทวงศ์ ด้วยย่านนี้เป็นชุมชนดั้งเดิมที่แวดล้อมไปด้วยโรงพยาบาลชั้นนำเช่น โรงพยาบาลยันฮี หรือแม้กระทั่งโรงพยาบาลศิริราชที่สามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็ว