ANANเต็งแชมป์อสังหาQ3กำไรสูงสุด507%
Loading

ANANเต็งแชมป์อสังหาQ3กำไรสูงสุด507%

วันที่ : 5 พฤศจิกายน 2561
ANAN จ่อแชมป์กำไรโตสุดกลุ่มอสังหา Q3 กำไร พุ่ง 507% ขณะที่ไตรมาส 4 ยอดโอนทะยานสูง แนะซื้อ ระยะสั้น เป้าหมาย 6.40 บาท บริษัทเตรียมเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่า 6,858 ล้านบาท คาดทำยอดขายได้ราว 10,053 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ามียอดโอนประมาณ 18,508 ล้านบาท
          ANAN จ่อแชมป์กำไรโตสุดกลุ่มอสังหา Q3 กำไร พุ่ง 507% ขณะที่ไตรมาส 4 ยอดโอนทะยานสูง แนะซื้อ ระยะสั้น เป้าหมาย 6.40 บาท บริษัทเตรียมเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่า 6,858 ล้านบาท คาดทำยอดขายได้ราว 10,053 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ามียอดโอนประมาณ 18,508 ล้านบาท

          แหล่งข่าวจาก บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN เปิดเผยว่า บริษัทกำลังอยู่ในช่วงการโอนโครงการจำนวนมากถึง 27,400 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการก้าวกระโดดจากครึ่งปีแรกที่มีการโอนไปแล้ว 10,599 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดโอนปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 38,000 ล้านบาท

          โดยในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา บริษัทได้โอนเป็นจำนวนมากทั้งโครงการต่อเนื่อง อย่าง ASHTON จุฬา-สีลม รวมถึง ASHTON อโศก ที่ได้ลูกค้าเข้ามาโอนเพิ่มขึ้นหลังปลดล็อกใบอนุญาต พร้อมกันนี้ยังได้เริ่มโอน UNiO รามคำแหง-เสรีไทย ด้วย

          สำหรับช่วงไตรมาส 4/2561 บริษัทจะเริ่มทยอยโอนโครงการ อาทิ ASHTON สีลม, IDEO MOBI สุขุมวิท 66, IDEO พหลโยธิน จตุจักร และ IDEO สุขุมวิท 93 เข้ามาได้เพิ่มเติม โดยจะมีโอนในช่วงไตรมาส 4/2561 สูงถึง 18,508 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ไตรมาส 4 เป็นช่วงไตรมาสที่บริษัทจะมีผลประกอบการสูงกระโดดในปีนี้ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 54,600 ล้านบาท

          เปิดอีก 3 โครงการ 6.8 พันล.

          ทั้งนี้ในปี 2561 บริษัทวางแผนเปิดโครงการใหม่ 13 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 27,100 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่า 22,278 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุน 1 โครงการ และโครงการแนวราบอีก 7 โครงการ มูลค่ารวม 4,822 ล้านบาท โดยช่วงไตรมาส 4/2561 บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมราว 6,858 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียมร่วมทุน (Joint Venture Agreement) กับบริษัท มิตซุย ฟูโดะซัน เอเชีย (ไทยแลนด์) จำกัด (MFAT) 1 โครงการ มูลค่า 6,044 ล้านบาท และโครงการแนวราบอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 814 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถทำยอดขายในไตรมาส 4/2561 ได้ประมาณ 10,053 ล้านบาท

          อย่างไรก็ดี บริษัทยังไม่ได้สรุปแผนธุรกิจในปี 2562 เนื่องจากรอความชัดเจนการปรับปรุงเกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ หลังจากนั้นบริษัทจึงจะพิจารณาแผนธุรกิจอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้บริษัทจะมีการประกาศงบไตรมาส 3/2561 ประมาณวันที่ 13 พฤศจิกายน 2561

          ANAN กำไรโตสูงสุด 507%

          บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ประเมินกำไรสุทธิของกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 3/2561 คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 3% จากไตรมาสก่อนหน้า

          แต่คาดว่า ANAN จะมีกำไรสุทธิเติบโตโดดเด่นสูงสุดในกลุ่มที่ 856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 507% จากไตรมาส 3/2560 และ 47% จากไตรมาส 2/2561 เนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากคอนโดเพิ่มขึ้นมาก

          และคาดว่า บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN จะเป็นอีก 1 บริษัทที่จะมีกำไรสุทธิเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาส 2/2561 จากฐานกำไรที่ต่ำในช่วงก่อนหน้า

          ขณะที่กำไรสุทธิรวมงวด 9 เดือนแรก คาดจะเติบโต 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าจะมีกำไรเติบโตสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ANAN โต 183%, บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI โต 147% และ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เติบโต 83%

          ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินกำไรสุทธิปี 2561 ของกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะเติบโต 16% จากปีก่อน โดยคาดว่า ANAN จะมีกำไรสุทธิเติบโตได้สูงสุด 69% จากปี 2560 จากฐานกำไรที่ต่ำในปีก่อน เนื่องจากมีการเลื่อนโอนโครงการแอชตัน อโศก มาในปีนี้ และ ORI คาดเติบโตสูง 60% เนื่องจากมีโครงการใหม่เริ่มโอนเพิ่มขึ้นมาก

          ขณะที่แนวโน้มกำไรสุทธิปี 2562 คาดว่าจะเติบโตชะลอตัว โดยยังต้องติดตามปัจจัยจากมาตรการคุมเข้มสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่คาดว่าจะประกาศหลักเกณฑ์ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะมีผลกระทบเชิงลบต่อกลุ่มที่อยู่อาศัยในปี 2562 ที่อาจทำให้กำไรสุทธิเติบโตต่ำกว่าคาดได้ อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิเคราะห์มองว่ามาตรการดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อ ANAN และ ORI มากสุด

          อสังหาลงสุดแล้ว

          โดยฝ่ายวิเคราะห์ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็น Neutral ทั้งนี้ราคาหุ้นในกลุ่มมีการปรับตัวลดลงค่อนข้างมากราว 15% ตั้งแต่มีข่าวที่ ธปท.จะออกมาตรการคุมเข้มอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมองว่าราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงสะท้อนข่าวดังกล่าวมากแล้ว สำหรับหุ้น Top Pick ได้แก่ QH ราคาเป้าหมาย 3.80 บาท โดยคาดว่า QH จะได้รับผล กระทบจากมาตรการของ ธปท.ไม่มากเมื่อเทียบกับกลุ่ม และในแง่ของกำไรสุทธิมาจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและบริษัทย่อยเกือบ 50% ของกำไรสุทธิรวม, อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงเกือบ 7% ต่อปี ขณะที่ปัจจุบันมูลค่าเงินลงทุนของ QH ใน HMPRO, LHFG, QHPF, QHHR รวมกันสูงกว่ามูลค่าหุ้นของ QH ถึง 28% ทำให้มองว่า Downside ต่อราคาหุ้นค่อนข้างต่ำ

          ส่วนระยะสั้นยังแนะนำ ANAN ราคาเป้าหมาย 6.40 บาท จากกำไรสุทธิไตรมาส 3/2561 ที่คาดว่าจะเติบโตได้ดีสุดในกลุ่ม และ ORI ราคาเป้าหมาย 14 บาท จากราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงมากสุดถึง 26% มองว่าสะท้อนข่าวลบไปค่อนข้างมากแล้ว ขณะที่กำไรสุทธิในปี 2561 ยังมีทิศทางเติบโตโดดเด่นเมื่อเทียบกับกลุ่ม
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ