นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัทชาญอิสสระ  ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CI กล่าวว่า จากความสำเร็จในการพัฒนาโครงการระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ทั้งที่โครงการบาบา บีช คลับ เรสซิเดนซ์ ชะอำ-หัวหิน โครงการบ้านอิสสระ บางนา และโครงการอิสสระ เรสซิเดนซ์ พระราม 9 ยังสร้างความแข็งแกร่งด้านตลาดลักชัวรี่ให้กับชาญอิสสระ ทำให้แต่ละโครงการมียอดขายตามเป้าที่วางไว้ อาทิ โครงการ บาบา บีช คลับ เรสซิเดนซ์ ชะอำ-หัวหิน มียอดขายแล้ว 90% และโครงการอิสสระ เรสซิเดนซ์ พระราม ๙ ปัจจุบันมียอดขายแล้วถึง 40% ด้วยราคาเริ่มต้น 100 ล้านบาท

          สำหรับทิศทางธุรกิจในปี 2562 จะมีการพัฒนาโครงการรวมมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการอาคารชุดพักอาศัย ส่วนต่อขยายของโรงแรมที่ภูเก็ตและหัวหิน รวมทั้งวาเคชั่น คลับในโครงการ ทิวทะเลเอสเตท ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ของการพัฒนาที่พักตากอากาศเจาะลูกค้าในระดับราคาไม่ถึงหนึ่งล้านบาท แต่ได้พักในอาคารที่มีบริการระดับโรงแรม 5 ดาว เป็นอาคารสูง 10 ชั้น มีห้องพัก 80 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท

          ด้านโครงการส่วนต่อขยายของโรงแรม ทั้งที่ภูเก็ตและหัวหิน ในส่วนของโรงแรมศรีพันวาภูเก็ต จะมีการก่อสร้างคอนเวนชั่นฮอลล์ขนาดจุ 400 คน พร้อมห้องพักแบบพลูสวีต เพิ่มอีก 20 ห้อง เพื่อรองรับการขยายตัวของการจัดงานอีเวนต์ ประชุม สัมมนา มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างปี62 คาดแล้วเสร็จในปี 63

          โรงแรมบาบา บีช คลับ หัวหิน ได้มีการเริ่มก่อสร้างในส่วนของเมนโฮเตล เป็นอาคารสูง 12 ชั้น 50 ห้องพัก พร้อมห้องประชุม จัดเลี้ยง ร้านอาหาร สปา มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท

          โครงการบ้านพักตากอากาศ จะมีการก่อสร้างเพิ่มอีก 2 โครงการ คือ พลูวิลลา ที่โครงการทิวทะเลเอสเตท จำนวน 7 หลัง ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ มีมูลค่ารวม 200 ล้านบาท และที่ศรีพันวา ภูเก็ต ก็จะมีการก่อสร้างพลูวิลลาเพิ่มอีก 4 หลัง มูลค่า 200 ล้านบาท

          นอกจากนี้ ชาญอิสสระ จะมีโครงการไฮไรส์คอนโดมิเนียม บนที่ดินย่านถนนจันทร์-สาทร เป็นโครงการลักชัวรี่คอนโดฯ มูลค่า 2,000 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างในปี 2562