ทีม Data Insight บริษัท บาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ได้สำรวจโครงการที่อยู่อาศัยแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายแบริ่ง-สมุทรปราการ ซึ่งเตรียมเปิดให้บริการในวันที่ 5 ธ.ค.2561 นี้ เพื่อติดตามสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัย ในระยะไม่เกิน 5 กิโลเมตร (กม.) ตามแนวรถไฟฟ้าเส้นนี้ที่มีระยะทางรวม 13 กม.ว่า ยังมีช่องว่างให้โครงการใหม่ๆ แบรนด์ใหม่เข้าไปเปิดตลาดได้บ้างหรือไม่

          ทั้งนี้ ในรัศมี 5 กม.จากแนวเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายแบริ่ง-สมุทรปราการ มีโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ในตลาดรวมแล้วทั้งสิ้น 283 โครงการ แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 55 โครงการ ทาวน์โฮม 113 โครงการ และคอนโดมิเนียมมากที่สุด 115 โครงการ สำหรับทำเลติดรถไฟฟ้าในระยะไม่เกิน 800 เมตร โครงการที่ยังเปิดขายอยู่จะเป็นคอนโดมิเนียมเท่านั้น โดยมีให้เลือกกว่า 16 โครงการ ส่วนบ้านและทาวน์โฮมจะขยับจากแนวสถานีออกไป

          ในจำนวน 283 โครงการ เป็นของบริษัทพัฒนาอสังหาฯกว่า 190 ราย แต่มีเพียง 5 แบรนด์เท่านั้นที่มีการพัฒนาเกินกว่า 5 โครง การขึ้นไป โดยบริษัทที่ครองตลาดตามประเภทที่อยู่อาศัย สำหรับที่อยู่อาศัยแนวราบอันดับ 1 ได้แก่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) มีโครงการแนวราบในพื้นที่รวม 19 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นทาวน์โฮม

          อันดับที่ 2 บริษัท น้อมบุญ จำกัด เน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบ อันดับ 3 บริษัท แฟนตาเซีย วิลล่า จำกัด เจ้าของแบรนด์ แฟนตาเซีย วิลล่า ที่ตั้งอยู่ในซอยแบริ่งหลายโครงการ สำหรับบ้านเดี่ยวในย่านนี้มีราคากลางเริ่มต้นที่ 5.2 ล้านบาท/ยูนิต ส่วนทาวน์โฮม มีราคากลางเริ่มต้นที่ 1.98 ล้านบาท/ยูนิต

          ขณะที่ตลาดคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าแบริ่ง-สมุทรปราการ อันดับ 1 คือ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) โดยมีคอนโดมากถึง 8 โครงการ อันดับ 2 บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) อันดับ 3 บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เจ้าถิ่นที่เติบโตมาจากย่านนี้ ซึ่งแต่ละโครงการกระจุกตัวอยู่ในซอยลาซาล สำหรับราคากลางของคอนโดฯในย่านนี้เท่ากับ 1.52 ล้านบาท/ยูนิต สำหรับตลาดที่วัดระยะทางจากแนวรถไฟฟ้าและสถานี ในช่วงแรกระยะติดรถไฟฟ้ามีการพัฒนาประเภทคอนโดฯเป็นหลัก มีเจ้าตลาดคือ บริษัท ออริจิ้นฯ มีสัดส่วน 21%

          ส่วนในระยะ 800 เมตร-2 กิโลเมตรจากรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นตลาดที่มีทั้งที่อยู่อาศัยแนวราบ และคอนโดมิเนียมที่ยังเปิดกว้างสำหรับบริษัทอสังหาฯที่จะเข้ามาแข่งขันในตลาดนี้ ส่วนในระยะ 2-5 กม.จากรถไฟฟ้า เป็นตลาดที่เน้นทาวน์โฮมเป็นหลัก มีบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท เป็นเจ้าตลาดในพื้นที่ด้วยสัดส่วน 11%

          ในส่วนของราคาที่อยู่อาศัยติดรถไฟฟ้ามีราคากลางเริ่มต้น 1.56 ล้านบาท/ยูนิต โดยมี คอนโดฯเป็นหลัก ในขณะที่ถัดออกไปในระยะไม่เกิน 2 กิโลเมตร ราคาคอนโดฯจะลดต่ำลง และดีดกลับมาอีกครั้งในระยะ 2-5 กิโลเมตรจากรถไฟฟ้า เนื่องจากขนาดห้องที่ใหญ่ขึ้น ส่วนทาวน์โฮมจะมีราคากลางเริ่มต้นสูงสุดที่ระยะ 800 เมตร-2 กิโลเมตร คือ 2.3 ล้านบาท/ยูนิต และราคาจะถูกลงเมื่อโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ถัดออกไป เช่นเดียวกับบ้านเดี่ยวที่มีราคากลางเท่ากับ 3.49 ล้านบาท/ยูนิต โดยโครงการส่วนใหญ่ในพื้นที่มีราคาเริ่มต้นไม่เกิน 3 ล้านบาท คิดเป็น 77% โดยเจ้าตลาดในกลุ่มราคานี้ ได้แก่ บริษัท พฤกษา เรียล เอสเตท และบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้