แบงก์ชงผู้บริหารชี้ขาดข้อเสนอคุมสินเชื่อบ้าน
Loading

แบงก์ชงผู้บริหารชี้ขาดข้อเสนอคุมสินเชื่อบ้าน

วันที่ : 15 ตุลาคม 2561
สมาคมแบงก์ยังไม่สรุปข้อความเห็น และข้อเสนอแนะต่อมาตรการคุมสินเชื่อบ้านของธปท. เผยให้แต่ละแบงก์กลับไปหารือกับผู้บริหารก่อน ขีดเส้นส่งความเห็นกลับมาภายในสัปดาห์นี้ ก่อนส่งให้ธปท.ก่อน 22 ต.ค.
          สมาคมแบงก์ยังไม่สรุปข้อความเห็น และข้อเสนอแนะต่อมาตรการคุมสินเชื่อบ้านของธปท. เผยให้แต่ละแบงก์กลับไปหารือกับผู้บริหารก่อน ขีดเส้นส่งความเห็นกลับมาภายในสัปดาห์นี้ ก่อนส่งให้ธปท.ก่อน 22 ต.ค.

          หลังธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดชี้แจงและรับฟังความเห็น(เฮียริ่ง) กับผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์และสถาบันการเงิน ถึงมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย

          ครั้งแรก เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา สมาคมธนาคารไทยได้นัดหารือสมาชิกฯเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวนโยบายดังกล่าววานนี้ (16 ต.ค.)

          หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เปิดรับฟังความคิดเห็นผู้เกี่ยวข้องถึงการออกมาตรการคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ครั้งแรก เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา สมาคมธนาคารไทยได้นัดหารือสมาชิกฯเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวนโยบายดังกล่าววานนี้ (16 ต.ค.)

          นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า จากการหารือร่วมกับกับสมาชิกในสมาคมฯเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอ เกี่ยวกับแนวนโยบายคุมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย( Macroprudential) นั้น ล่าสุดยังไม่มีข้อเสนอหรือข้อสรุปสุดท้ายออกมาเป็นรูปธรรม เนื่องจากการหารือดังกล่าวเป็นการแสดงความคิดเห็นข้อเสนอร่วมกัน หลังมีการเข้ารับฟังความคิดเห็น (เฮียริ่ง) จากธปท.เมื่อสัปดาห์ก่อนในเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งแต่ละแบงก์จะต้องนำข้อเสนอต่างๆไปหารือกับระดับผู้บริหารของแต่ละแบงก์ต่อไป และส่งข้อเสนอความเห็นกลับมาทางสมาคมธนาคารไทยภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้สมาคมฯมีการรวบรวมความเห็นต่างๆเสนอกับธปท.ให้รับทราบก่อนวันที่ 22ต.ค.นี้

          นอกจากนำข้อเสนอของธนาคารต่างๆส่งให้กับธปท.แล้ว ในส่วนแนวทางปฏิบัติ สมาคมจะมีการนำข้อเสนอต่างๆมาออกเป็นแนวปฏิบัติ เพื่อวางกฏระเบียบ กติกา แนวทางในการใช้ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยด้วย เพื่อให้แบงก์ใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานในการปล่อยสินเชื่อให้เป็นแนวทางเดียวกัน ขณะเดียวกันหากแบงก์อื่นๆมีข้อเสนอนอกเหนือที่ยื่นให้กับทางสมาคมฯ ก็สามารถยื่นต่อธปท.เป็นรายแบงก์ได้ เพราะครั้งนี้ธปท.เปิดกว้างเพื่อรับฟังความคิดเห็นอยู่แล้ว

          การหารือครั้งนี้ เป็นการทำความเข้าใจร่วมกัน หลังไปฟังเฮียริ่งมา ซึ่งแต่ละธนาคารก็ต้องนำสิ่งที่คุยกันกลับไปคุยกับผู้บริหารของแต่ละแบงก์ ว่าเห็นชอบอย่างไรหรือไม่ โดยข้อเสนอแนะครั้งนี้แบ่งเป็นสองด้าน ด้านแรก คืออาจเอาข้อเสนอต่างๆมาวางมาตรฐานในการใช้ปล่อยสินเชื่อบ้านให้เป็นแนวปฏิบัติ และกติกาเดียวกัน หากนอกเหนือจากนั้น แบงก์ก็สามารถเสนอไปเป็นรายแบงก์ได้ ซึ่งพรุ่งนี้คาดว่าจะมีการรายงานและพูดกันเรื่องนี้ในคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด)ของสมาคมธนาคารไทยเรื่องนี้ด้วย เพื่อการรายงานให้ทราบว่าคุยอะไรกันไปบ้างมีข้อเสนออย่างไร แบงก์โดยรวมเข้าใจธปท.ในสิ่งที่ธปท.กังวลและออกมาตรการออกมานายกอบศักดิ์กล่าว

          อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมยังมีการหารือกันเรื่องกำหนดระยะเวลาในการบังคับใช้ด้วย หากเป็นไปตามกำหนดของธปท.คือ 1ม.ค.2562 ระบบแบงก์จะพร้อมหรือไม่ เพราะทุกแบงก์ต้องใช้ระยะเวลาในการเตรียมพร้อมระบบภาพรวม ระบบการปฏิบัติการด้านไอทีต่างๆ ซึ่งจะต้องให้แต่ละแบงก์ไปหารือกับผู้บริหารเพื่อสรุปความชัดเจนอีกครั้ง

          ทั้งนี้ เชื่อว่าแนวมาตรการครั้งนี้ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อระบบของสถาบันการเงินในระบบได้ เพราะที่ผ่านมายอมรับว่ามีการแข่งกันกันปล่อยสินเชื่อกันค่อนข้างมาก ดังนั้นทุกฝ่ายต้องมาช่วยกันดูแล และวางแนวทางกำกับร่วมกัน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น และลดการเก็งกำไรในที่อยู่อาศัย และช่วยวางมาตรฐานให้แบงก์มีคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้นในระยะยาวด้วย

          "เกณฑ์บ้านหลักแรกส่วนใหญ่แบงก์โอเค แต่อาจมีบ้างด้านที่อาจต้องมาหารือกันเล็กน้อย แต่เกณฑ์บังคับหลังที่สองหลังที่สามอันนั้นก็ต้องมาคุยกัน แบงก์อาจจะมองใกล้เคียงธปท.หรือเห็นด้วยกับผู้ประกอบการอสังหาฯก็ได้ เพราะเรื่องนี้ต้องดูผลกระทบในภาพรวม ทั้งการแข่งขัน อำนาจการซื้อขายต่างๆ คงไม่ได้ดูแค่ผลกระทบจากฝั่งบริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯอย่างเดียว  ต้องดูผลกระทบของระบบในภาพรวมด้วย"

          ทั้งนี้ก่อนออกแนวปฏิบัติมา ก็เชื่อว่าธปท.มีข้อมูลละเอียดอยู่แล้วว่าการปล่อยสินเชื่อเป็นอย่างไร หนี้เสียเป็นอย่างไรในบ้านหลังที่หนึ่งหลังที่สอง และจากความผันผวนภายนอก ธปท.อาจต้องเตรียมพร้อมเพื่อระมัดระวังมากขึ้น จึงต้องออกเกณฑ์มาดูแล เพราะหากเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรมาจากความผันผวนภายนอก ก็จะทำให้ผลกระทบไม่รุนแรงมาก

          อนึ่ง ตามมาตรการดูแลสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยของธปท. นั้น กำหนดให้การซื้อบ้านหลังที่สอง(สัญญาที่สอง) และบ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปต้องวางเงินดาวน์ 20% หรือมีสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อต่อมูลค่าที่อยู่อาศัย (LTV) ไม่เกิน 80% ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1ม.ค.2562 จากการเปิดเฮียริ่งในรอบแรก มีการเสนอข้อคิดเห็นหลากหลาย ทั้งการเสนอให้เลื่อนบังคับใช้เป็นช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 แทน เพื่อให้ตลาดมีการปรับตัว รวมทั้งเสนอให้บังคับใช้มาตรการดังกล่าวกับบ้านหลังที่สามแทน บ้านหลังที่ 2 เป็นต้น
 
ข่าวนโยบายการเงิน-การคลัง อื่นๆ